UFABETWINS ก่อนจะถึงเมสซี่? : อัลลัน ซิโมนเซ่น แข้งบัลลงดอร์บาร์ซ่า ที่ช็อคโลกย้ายไปลีกรองอังกฤษ

UFABETWINS บาร์เซโลน่า สร้างนักเตะระดับโลกมาก็ไม่น้อย แม้นักเตะเหล่านั้นหลายคนจะไม่ได้แขวนสตั๊ดกับสโมสร

แต่หลายคนที่ย้ายออกไปก็ได้ไปอยู่ทีมใหญ่ ๆ ที่รอต่อคิวขอลายเซ็นเต็มไปหมด ริวัลโด้ และ โรนัลดินโญ่ ไป เอซี มิลาน, โรนัลโด้ และ ซามูเอล เอโต้ ไป อินเตอร์ มิลาน หรือแม้กระทั่งเจ้าของข่าวลือหนาหูช็อคโลกฟุตบอลที่สุดในเวลานี้อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ก็มีวี่แววที่อาจจะได้ลงเอยกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ไม่มีใครในนี้ที่จะสร้างความประหลาดใจได้เท่ากับนักเตะดีกรีรางวัลบัลลงดอร์อย่าง อัลลัน ซิโมนเซ่น ย้อนกลับไปไม่ไกลนัก สุดยอดนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก

อยู่กับ บาร์เซโลน่า ได้ 3 ปี และวันที่เขาย้ายออก เขาเลือกไปเล่นในทีมรองของลีกอังกฤษอย่าง ชาร์ลตัน แอธเลติก ทั้ง ๆ ที่อายุตัวเองก็ไม่ได้แก่เกินแกงขนาดนั้น อะไรที่ดึงดูดแข้งบัลลงดอร์มาสู่ทีมเล็ก ๆ ในกรุงลอนดอน เดนมาร์กสไตรเกอร์ ชื่อของ อัลลัน ซิโมนเซ่น อาจจะไม่ได้คุ้นหูแฟนบอลยุคปัจจุบันมากนัก แต่อย่างที่เราได้เคยเกริ่นไปก่อนหน้านี้ เขาคือยอดนักเตะในช่วงปลายยุค 70s ช่วงเวลาเดียวกับนักเตะอย่าง มิเชล พลาตินี่, โยฮัน ครัฟฟ์ และ เควิน คีแกน

ที่เป็นดาวเตะระดับแถวหน้าของโลก ซึ่งแน่นอนว่าเขานำหน้าทุกคนทะลุจนขึ้นมาคว้ารางวัลนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกอย่าง “บัลลงดอร์” ได้อย่างยิ่งใหญ่ เรื่องราวของเขาเริ่มต้นจากการลงเล่นในลีกเดนมาร์กอย่าง เวจเล่ ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ในปี 1972 และหลังจากนั้นตำนานดาวยิงชาวเดนิชที่สูงแค่ 165 เซนติเมตรก็เริ่มกระฉ่อนโลกลูกหนัง ย้อนกลับไปช่วงเวลาแรก ๆ ด้วยร่างกายที่เป็นรอง เขาตัวเล็กเกินกว่านักเตะหลาย ๆ คน อีกทั้งยังเป็นการ

ออกไปเล่นในต่างประเทศครั้งแรกทำให้ ซิโมนเซ่น ต้องปรับตัวอยู่ถึง 2 ฤดูกาล ตามการบอกเล่าจาก ชาร์ลี สต็อก นักกายภาพบำบัดประจำทีมสิงห์หนุ่มในเวลานั้นว่า ตัวของ ซิโมนเซ่น เล่นไม่ออกจนทำให้กุนซือ ฮานส์ ไวส์ไวเลอร์ โดนวิจารณ์ในการซื้อตัวที่ล้มเหลว แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาก็เถียงแทนทุกคนให้รอเวลาอีกสักนิด เดี๋ยวจะได้เห็นความยอดเยี่ยมที่แท้จริง “ตอนแรก อัลลัน เล่นในบุนเดสลีกาไม่ได้เลย ปรับตัวได้ยากมาก แต่ในช่วงเวลาเดียวกันมีคนที่ไว้ใจเขา

นั่นคือ ไวส์ไวเลอร์ ที่ยืนยันกับทุกคนว่าเด็กอายุ 19 ปีคนนี้จมูกไวในกรอบเขตโทษที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา” ทุกอย่างบนโลกนี้มีช่วงเวลาของตนเองทั้งสิ้น หลังจากผ่านพ้นไป 2 ปี ซิโมนเซ่น ที่เริ่มเก็บประสบการณ์และฉายแสงก็เริ่มทำให้เพื่อนร่วมทีมกลัดบัคประหลาดใจ หนึ่งในนั้นคือ กุนเธอร์ เน็ตเซอร์ นักเตะเพื่อนร่วมทีมที่เคยแซว ซิโมนเซ่น ตอนที่ย้ายมาว่า “นี่เราถึงขั้นต้องซื้อเด็กอนุบาลมาเล่นเป็นกองหน้าแล้วเหรอ ?” แม้คนอื่นจะมองข้าม แต่ อัลลัน ซิโมนเซ่น

เป็นนักเตะประเภทที่ถ่อมตัว ชอบทำตัวให้น้อยกว่าชื่อเสียงที่มีและหาทางพัฒนาตลอด เขาเล่าย้อนกลับไปว่าในวันที่ทุกคนบอกว่าเขาไม่ได้เรื่อง เขาไม่ได้รู้สึกขัดใจอะไร เพราะเขารู้ดีเหมือนกับที่ ไวส์ไวเลอร์ ว่า นั่นคือ ขอเวลาอีกพักเดียว เดี๋ยวเขาจะระเบิดฟอร์มได้แน่ “มันเป็นเรื่องของเวลา เมื่อเวลาผ่านไปผมเริ่มเจอสิ่งที่ทำให้ผมสนุกกับฟุตบอล ผมเชื่อมั่นเรื่องความสนุกกับสิ่งที่ทำ อย่าทำให้ทุกอย่างซับซ้อนเด็ดขาด ผมบอกตัวเองเสมอว่า เอ็งน่ะมันมีของ และทุกอย่าง

ต้องการเวลาสำหรับปะทุ ผมมั่นใจในตัวเองลึก ๆ ว่าผมจะระเบิดมันทั้งหมดออกมาได้แน่” ทุกอย่างระเบิดออกมาจริงเมื่อเวลาของเขามาถึง ซิโมนเซ่น กลายเป็นดาวยิงจอมถล่มประตู และที่สำคัญยิ่งกว่าผลงานส่วนตัวคือการพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 3 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 1 สมัย, ยูฟ่า คัพ 2 สมัย และ รองแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ อีก 1 ครั้ง ในปี 1977 ซึ่งในปีนี้เองที่เขากลายเป็นเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ ด้วยการเฉือนชนะอันดับ 2 อย่าง คีแกน โดยมีอันดับ 3-4-5

เป็น มิเชล พลาตินี่, โรแบร์โต้ เบตเตก้า และ โยฮัน ครัฟฟ์ ตามลำดับ กลัดบัค ณ ช่วงเวลานั้นคือทีมระดับหัวแถวของลีกเยอรมัน ด้วยศักดิ์และศรีอาจจะมากกว่า บาเยิร์น มิวนิค ในยุคนั้นด้วยซ้ำ ทว่าความสำเร็จทั้งหมดที่ผ่านมาทำให้ ซิโมนเซ่น รู้สึกกระหายมากขึ้น ซึ่งมันประจวบเหมาะกับที่ บาร์เซโลน่า ติดต่อเข้ามาซื้อตัวเขา ความสนใจจะย้ายทีมของเขาก็เริ่มขึ้น เหตุผลสำคัญเพราะความยิ่งใหญ่ของสโมสรเป็นข้อแรก และข้อที่ 2 คือ ไวส์ไวเลอร์ อดีตเจ้านายเก่าของเขาเป็น

UFABETWINS

กุนซือของ บาร์ซ่า ในเวลานั้นอีกด้วย ราชาแห่งคัมป์นู “ผมโดนติดต่อมาตั้งแต่ปี 1978 แล้ว ผมได้นั่งคุยกับ บาร์เซโลน่า และยังมีปัญหาเรื่องย้ายออกจนต้องรออีก1 ปี สุดท้ายก็อย่างที่ทุกคนรู้กัน เมื่อครบสัญญาผมก็กลายเป็นนักเตะของ บาร์เซโลน่า ในทันที” เขาเล่าย้อนกลับไปในการย้ายทีมปี 1979 ซึ่ง ณ เวลานั้นในลีกสเปนมีโควต้านักเตะต่างชาติที่ใช้ลงสนาม 11 คนแรกได้เพียง 2 คนเท่านั้น นั่นหมายความว่าคนที่จะสอดแทรก 2 ตำแหน่งนี้ได้ต้องเป็นคนที่มีดีและสร้าง

ความแตกต่างเหนือนักเตะท้องถิ่นได้จริง ๆ บาร์เซโลน่า คือความทะเยอทะยานใหม่สำหรับ ซิโมนเซ่น เขามีทีมอื่นติดต่อมาเยอะแยะมากมายแต่ก็เลือกที่นี่ เพราะมนต์ขลังของสโมสร ความยิ่งใหญ่ของสนาม คัมป์ นู และ ภาพแวดล้อมของเมืองที่อากาศดีติดกับทะเลเมดิเตอเรเนียน ทำให้การย้ายทีมราบรื่นไม่มีสะดุด “วันที่ผมย้ายมา มีภารกิจต้องไปเปิดตัวนักเตะใหม่ที่สนามคัมป์นู ในวันเปิดตัวของผมก็เหลือเชื่อ มีคนมาดูการเซ็นสัญญาของผมถึง 20,000 คน

สำหรับคนที่เพิ่งมาถึงเป็นวันแรกนี่คืออะไรที่มหัศจรรย์มาก” การเริ่มต้นกับ บาร์เซโลน่านั้นไม่ได้ยากเย็นเหมือนกับที่ กลัดบัค เพราะ ซิโมนเซ่น ในตอนนี้ไม่ใช่เด็ก ๆ อีกต่อไปแล้ว นักเตะดีกรีบัลลงดอร์อย่างเขาเข้ามาสร้างผลกระทบทันที สิ่งที่หลงเหลือเอาไว้เป็นหลักฐานคือคลิปวิดีโอการเล่นของเขาที่ดูยังไงก็คล้าย ลิโอเนล เมสซี่ ในยุคนี้ชัด ๆ มีการดึงจังหวะช้าเร็วในการเลี้ยงบอล ใช้การโยกและขยับหลอกในการเอาชนะคู่แข่ง และเมื่อถึงพื้นที่สังหารเท้าของของ

ซิโมนเซ่น ก็อัดเข้ามุมตลอด นั่นคือสิ่งที่เขาแสดงให้แฟน ๆ หลักแสนใน คัมป์ นู ได้เห็นในทุกสัปดาห์ “การเล่นในสนามนี้มันบ้ามาก เหมือนกับภาพจิ๊กซอว์ที่มีชิ้นส่วนเล็ก ๆ เต็มไปหมด คุณลงไปยืนบนสนามและมองขึ้นไปบนอัฒจันทร์ คุณจะรู้สึกทันทีว่าเมื่อไหร่มันจะพ้นระยะสายตาเสียที เพราะมันใหญ่และสูงมาก ในวันที่คนดูเต็มสนามและคุณเล่นอยู่ที่นั่น มันคือประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในความทรงจำของผม” ซิโมนเซ่น เล่าถึงช่วงเวลานั้น ปีแรกกับ บาร์เซโลน่า

เขากลายเป็นดาวซัลโวอันดับ 1 ของสโมสร หลังจากนั้นก็ใช้เวลา 3 ปี ที่ถิ่น คัมป์ นู สร้างความสำเร็จด้วยการเป็นแชมป์ฟุตบอลถ้วยโคปา เดล เรย์ ในฤดูกาล 1980-81 ก่อนต่อยอดด้วยถ้วยยุโรปอย่าง คัพ วินเนอร์ส คัพ ในฤดูกาล 1981-82 อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างเขาและ บาร์เซโลน่า ก็จบลงเพียงแค่นั้น เพราะในฤดูกาล 1982-83 ทีมมีการเปลี่ยนแปลงโควต้านักเตะต่างชาติใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าการจะหาใครมาแทนที่ของ ซิโมนเซ่น ได้ในจำนวนโควต้า 2 คน

จาก 11 ตัวจริง จะต้องเป็นนักเตะที่พิเศษมาก ๆ และเขาคนนั้นที่เข้ามาคือ ดิเอโก้ มาราโดน่า นักเตะอาร์เจนติน่าที่ว่ากันว่าเก่งที่สุดในโลก ณ เวลานั้น เมื่อ มาราโดน่า มา ซิโมนเซ่น ก็ต้องไป เรื่องมันง่าย ๆ แบบนั้น เนื่องจากเขารู้ดีว่าโควต้านักเตะอีกต่างชาติ 2 ที่คงไม่เหลือว่างสำหรับเขา เพราะคนหนึ่งคือกระดูกสันหลังของทีมอย่าง แบรนด์ ชูสเตอร์ และอีกคนคือคนที่เก่งที่สุดในโลกอย่าง มาราโดน่า ทางเลือกของเขามีอยู่ 2 ทาง นั่นคือการนั่งสำรองเพื่อรอโอกาสลงสนาม

หรือการย้ายออกจากทีมที่เขาคิดว่า “ยิ่งใหญ่ที่สุด” ทีมนี้ ในทีมที่กดดันที่สุดเพราะต้องการความสำเร็จทุกปี ความคาดหวังจากแฟนบอลและผู้บริหารเติบโตขึ้นเรื่อยในทุกโมงยาม นั่นทำให้ ซิโมนเซ่น รู้ดีว่า เวลาของเขาหมดลงแล้ว หากฝืนอยู่ต่อไปอาจจะทำให้เขาจบไม่สวยก็เป็นได้ “แฟน ๆ ที่นี่หลงใหลในชัยชนะอย่างที่สุด เวลาแพ้พวกเขาก็จะโกรธสุด ๆ เหมือนเช่นกัน การเล่นให้กับบาร์เซโลน่านั้นเป็นความรู้สึกที่กึ่งดีกึ่งยากลำบาก ถ้าฟอร์มของคุณไม่เป็นแบบที่พวก

เขาอยากจะเห็น พวกเขาพร้อมจะอัดคุณให้เละ แต่ถ้าคุณระเบิดฟอร์มได้เมื่อไหร่ คุณจะเดินแอ็คทั่วทั้งแคว้นได้ด้วยทางเดินที่เต็มไปด้วยดอกกุหลาบ” ซิโมนเซ่น เล่าถึงวัฒนธรรมของสโมสร ที่ดูแล้วทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย การย้ายทีมสุดช็อค มันจะไม่แปลกอะไรเลยหาก ซิโมนเซ่น ย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า และไปอยู่กับทีมระดับแถวหน้าของลีกอื่น ๆ เพราะด้วยอายุอานามของเขาก็เหลืออายุการใช้งานอีกไม่น้อย อีกทั้งผลงานของเขากับ บาร์เซโลน่า

UFABETWINS

ก็รับประกันว่าใครได้ไปรับรองยิงระเบิดแน่นอน ณ เวลานั้นมีความสนใจจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ เรอัล มาดริด รวมถึงสโมสรอีกหลายสโมสรในอิตาลี อย่างไรก็ตามวันที่เขาย้ายทีมแบบเป็นทางการ ทุกอย่างก็ช็อคโลก เขาเลือกจะย้ายไปอยู่ลอนดอน แต่ไม่ใช่สเปอร์ส หรือทีมในลีกสูงสุดอย่าง อาร์เซน่อล กลับเป็น ชาร์ลตัน แอธเลติก ทีมจาก ดิวิชั่น 2 หรือลีกรองของประเทศอย่างไม่น่าเชื่อ และนี่คือเบื้องหลังที่ทำให้เกิดดีลนี้ ช่วงเวลาดังกล่าวเจ้าของสโมสรของ

ชาร์ลตัน กำลังคิดโปรเจ็คสร้าง “กาลาติกอส” หรือทีมรวมดาราในแบบฉบับของพวกเขาขึ้นมา และนั่นทำให้ ชาร์ลตัน กล้ายื่นเงินให้กับบาร์เซโลน่า 325,000 ปอนด์ เพื่อขอแลกกับ ซิโมนเซ่น เมื่อข่าวออกไปแบบนั้น ทุกคนในวงการฟุตบอลขำก๊ากและเย้ยหยันว่าทีมอย่าง ชาร์ลตัน จะเอาเงินจากไหนมาซื้อนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกเมื่อไม่กี่ปีก่อนอย่าง ซิโมนเซ่น … เพราะในฤดูกาล 1981-82 ชาร์ลตัน จบอันดับที่ 13 ของดิวิชั่นสอง ได้เงินค่าผ่านประตูน้อยที่สุดในบรรดาทุกทีม

ของลีกนี้ อีกทั้งมองจากสภาพทีมโดยรวม และสภาพสนามอันเป็นสิ่งที่ ซิโมนเซ่น หลงใหลแล้วก็ติดลบ เพราะสนามของ ชาร์ลตัน นั้นมีคนดูเบาบางมาก เฉลี่ยราวเกมละ 6 พันคนเท่านั้น ถ้าเทียบกับ มาดริด และ สเปอร์ส ที่ต้องการตัวเขาเล้ว ชาร์ลตัน แพ้ทุกประตูอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตามความคิดของมนุษย์ก็เปลี่ยนไปทุกปีเมื่อเราโตขึ้น และดูเหมือนว่า ซิโมนเซ่น ที่วิ่งไปถึงจุดสูงสุดของอาชีพนักเตะจะมาถึงช่วงการเปลี่ยนแปลงทางความคิดแล้ว ว่ากันว่าเหตุผล

ที่เขาเลือกมาเล่นให้กับ ชาร์ลตัน เพราะมันทำให้เขาได้ใช้ชีวิตในลอนดอน เมืองหลวงของอังกฤษที่มีความสะดวกสบาย และการเล่นในดิวิชั่น 2 ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก เนื่องจาก ซิโมนเซ่น เชื่อว่าเขาจะได้พบวิถีอาชีพที่ผ่อนคลายลงจากเดิมเยอะ อย่างน้อยก็ถือเป็นการพักสมองจากความเครียดที่เคยเจอมากับช่วงที่เล่นให้กับ บาร์ซ่า ได้

 

คลิ๊กเลย >>> UFABETWINS

อ่านข่าวเพิ่ม >>> บ้านผลบอล