UFABETWINS ประวัติ จอร์จีนีโย ไวนัลดึม ของเดอะ เร้ดส์ จอร์จีนีโย ไวนัลดึม
เขาเกิดวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1990 เป็นักฟุตบอลชาวดัตช์ ซึ่งปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกให้กับทางหงส์แดงและทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ในช่วงฤดูกาล 2016-2017 จอร์จีนีโย ไวนัลดึม ของเดอะ เร้ดส์ ในช่วงวันที่ 22 กรกฏาคม ค.ศ 2016 หงส์แดงได้ทำสัญญากับไวนัลดึมของเราจากนิวคาสเซิลยูไนเต็ด
ด้วยค่าเหนื่อยย 23 ล้านปอน์ด โดยเงื่อนไขสัญญารวม 5 ปี โดยทางไวนัลดึมได้เป็นผู้ครอบครองเสื้อหมายเลข 5 ในเวลาต่อมาวันที่ 14 สิงหาคม ในปีเดียวกันนั้น เป็นนัดเปิดฤดูกาลซึ่งไวนัลดึมก็ได้ลงเป็นตัวจริงเป็นครั้งแรกในนามของลิเวอร์พูลโดยนัดนั้นเขาได้เป็นตัวจริงและจ่ายบอลให้กับทาง แอดัม ลัลลานา
ทำประตูให้ลิเวอร์พูล เอาชนะ ปืนใหญ่อาร์เซนอล ณ เอมิเรตส์สเตเดียม 4-3 และเวลาถัดมา วันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ 2016 ไวนัลดึมทำประตูแรกในสีเสื้อของหงส์แดง ในศึก พรีเมียร์ลีก ที่ลิเวอร์พูลเปิดบ้านพบวอตฟอร์ตและเอาชนะด้วยสกอร์ 6-1 และประตูที่ 2 ของเขาเกิดขึ้นวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ 2016 ในนัดที่
หงส์แดง เปิดบ้านตอนรับ เรือใบสีฟ้า 1-0 วันที่ 3 มกราคม ค.ศ 2017 ไวนัลดึมสามารถทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีกได้ ในนัดที่ หงส์แดง เปิดบ้านพบ สิงโตน้ำเงินครามเสอมกัน 1-1 และวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ 2017 ไววัลดึมทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ หงส์แดง เปิดสนามแอนฟิลด์เอาชนะ อาร์เซน่อล 3-1 และวันที่ 12
มีนาคม ค.ศ 2017 ไวนัลดึมทำประตูที่ 54 ในเมืองผู้ดี ในนัดที่หงส์แดง ได้เปิดบ้านตอนรับ เบิร์นลีย์ 2-1 ต่อมาวันที่ 21 พฤษภาคม ต.ศ 2017 พรีเมียร์ลีกนัดเปิดฤดูกาล 2016-2017 ลิเวอร์พูล เปิดบ้านตอนรับ ดิดเดิลส์เบรอ ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องเอาชนะให้ได้เพื่อเหตุผลที่ว่าจะได้พื้นที่การันตีไปยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ซึ่งเจ้าตัวนั้นสามารถทำได้ทั้งหมด 6 ประตูในพรีเมียร์ลีก และหงส์แดงนั้นสามารถ เอาชนะ มิดเดิลส์เบรอ 3-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล จบอันดับที่ 4 ของลีกและคว้าโควต้าแชมปเปี้ยนา์ลีก ในฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ ฤดูกาล 2017-18 ในวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ 2017 ไวนัลดึมสามารถทำประตูของตัวเองในพรเมียร์ลีกได้ ซึงในนัด
นั้น ลิเวอร์พลู เปิดบ้านตอนรับ ฮันเดอส์ฟิลดทาวน์ 3-0 ต่อมาในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ไวนัลดึมทำประตูแรกใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017-2018 ในนัดที่ หงส์แดง ได้แพ้กับ โรม่า ที่สตาดีโอโอลิมปีโก 2-4 รวมพลสองนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะโรมา 7-6 ช่วย
ให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกสำเร็จได้ ฤดูกาล 2018-19 ในวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 2018 ไวนัลดึมทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018–19 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไก่เดือยทอง ณ สนามกีฬาเวมบลีย์ 2-1 เวลาต่อมา ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 ไวนัลดึมทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ใน
นัดที่ หงส์แดง เปิดสนามแอนฟีลด์ เอาชนะ บอร์นมัท 3-0 ต่อมา ในวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2019 ไวนัลดึมทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี ที่คาร์ดิฟฟ์ซิตีสเตเดียม 2-0 ต่อมา ในวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเจอกับ บาร์เซ
โลนา จากสเปน โดยนัดแรก หงส์แดงเป็นฝ่ายแพ้ 0-3 ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ 4-0 ถึงจะผ่านเข้ารอบต่อไป โดย ไวนัลดึมยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บาร์เซโลนา 4-0 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ บาร์เซโลนา 4-3 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ ฤดูกาล
2019-20 จอร์จีนีโย ไวนัลดึม ของเดอะ เร้ดส์ ในวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 2019 เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 2019 หงส์แดง เจอกับ เรือใบสีฟ้า ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ ในช่วง 90 นาที ลิเวอร์พูล เสมอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี 1-1 ทำให้ต้องต่อเวลาและยิงจุดโทษ โดยไวนัลดึมยิงจุดโทษไม่เข้า เคลาดิโอ บราโว ผู้รักษาประตูของ แมน
เชสเตอร์ซิตี เซฟเอาไว้ได้ สุดท้าย ลิเวอร์พูล ก็เป็นฝ่ายแพ้ในการยิงจุดโทษ 4-5 ทำให้ ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสคว้าแชมป์คอมมิวนิตีชีลด์ อย่างน่าเสียดาย ต่อมา ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2019 ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 เจอกับ สิงโตน้ำเงินคราม แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก
ฤดูกาล 2018–19 ที่สนามโวดาโฟนพาร์ก, เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 5-4 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ สมัยที่ 4 ได้สำเร็จ ต่อมา ในวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 2019 ไวนัลดึมทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชฟฟี
ลด์ยูไนเต็ด ที่บรามอลล์เลน 1-0 ต่อมา ในวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E ไวนัลดึมทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ เคงก์ จากเบลเยียม 2-1ต่อมา ในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ไวนัลดึมทำประตูที่ 2 ใน
พรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 5-2 ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 ไวนัลดึมทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 3-2ต่อมา ในวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2020 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 ลิเวอร์พูล เปิดบ้านพบกับ อัตเลติโกเด
มาดริด จากสเปน โดยนัดแรก ลิเวอร์พูล ไปพ่ายแพ้ 0-1 ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ 2-0 ถึงจะผ่านเข้ารอบต่อไป โดย ไวนัลดึมยิงประตูขึ้นนำ 1-0 แต่สุดท้าย ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ 2-3 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ 2-4 ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องตกรอบไปในที่สุด
กว่าจะมาเป็น ฟาบินโญ่ แห่งแอนฟิลด์
กว่าจะมาเป็น ฟาบินโญ่ แห่งแอนฟิลด์ นักเตะ ฟาบินโญ่ เขาเกิดเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 1993 ในประเทศบราซิล เขามีส่วนสูง 188 เซนติเมตร เขาได้เข้าวงการลูกหนังเยาวชนของสโมสรเปาลิเนีย ในปี 2006-2010 ก่อนที่จะโชว์ฟอร์มเขาตาและได้ไปอยู่ทีมเยาวชนกับสโมสรฟลูมิเนนเซ่ ในปี 2010-2012 หลังจากนั้นเขา
ถูกจับตาดูจากรายสื่อจนทำให้เขาถูกเป็นดาวรุ่งที่ดีที่สุดในประเทศบราซิลในเวลานั้น ก่อนที่ในปี 2012 เขาได้รับสัญญาฉบับแรกในชีวิตกับสโมสร ริโอ อาฟ ทีมดังระดับท้องถิ่นในประเทศโปรตุเกส ซึ่ง ฟาบินโญ่นั้นได้เจอกับประสบการณ์การตัดสินใจครั้งแรก โดยเลือกที่จะตัดสินใจบินข้ามทวีปย้ายมาค้าแข้งกับสโมสร
ริโอ อาฟ ทีมดังในประเทศโปรตุเกส แต่เขาได้อาศัยอยู่กับต้นสังกัด(ริโอ อาฟ)เพียงแค่ 30 วันก็ต้องออกเดินทางอีกครั้งในสัญญายืมตัวโดยเวลานั้นสโมสรที่สนใจในตัวเขานั้นกลับเป็นที่ยักษ์ใหญ่ที่เด็กๆ ทุกคนใฝ่ฝันอย่าง ราชันชุดขาว แต่เป็นทีม เรอัล มาดริด บี หรือทีมรองของสโมสรดังกล่าว
ฟาบินโญ่ กว่าจะมาเป็น ฟาบินโญ่ แห่งแอนฟิลด์ ช่วงแรกของเขาก่อนที่จะตัดสินใจย้ายมาร่วมทีมกับสโมสรชื่อดังของ ลา ลีก้า สเปน เขาตั้งความหวังว่าเขาจะได้ข้าแข้งกับสโมสรใหญ่แห่งนี้ แต่มันเป็นความคิดที่ไม่ค่อยเข้าท่าสักเท่าไหร่ เมื่อเขาต้องย้ายไปเล่นให้กับสโมสรสำรองอย่าง เรอัล มาดริด กัสติยา แต่ด้วย
ความมุ่งมั่นของเขาทำให้เขาได้เป็นหัวหลักของทีมด้วยเวลาอันสั้น ซึ่งหลังจากที่เขาถูกส่งตัวไปเล่นช่วยกับทีมสำรองนั้น ทำให้ ฟาบินโญ่ ถูกเรียกตัวไปเป็นตัวสำรองของทีมชุดใหญ่ ซึ่งในเวลานั้น ทัพราชันชุดขาว อยู่ภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนเก่งอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งในนัดแรกที่เขาได้ประเดิมสนามกับ เรอัล
มาดริด นั่นคือเกมที่สโมสรต้องทำการแข่งขัน สโมสร มาลาก้า โดยเขาได้โอกาสทองลงไปเปลี่ยนแทนที่ของ ฟาบิโอ โคเอนเทรา ซึ่งในเกมนัดดังกล่าว เขาได้มีส่วนร่วมด้วยการส่งบอลให้กับทาง อังเคล ดิ มาเรีย ทำประตูปิดท้ายได้และจบเกมไปด้วยสกอร์ 6-2 หลังจากนั้น ฟาบินโญ่ ก็ได้หมดสัญญากับทางจ้นสังกัด
ของ เรอัล มาดริด แล้ว จากนั้นเขาได้รับข้อเสนอพร้อมสัญญาจากทางสโมสรดังใน ลีกเอิง อย่าง อาแอ็ส โมนาโก ในรูปแบบสัญญายืมตัว ซึ่งนี่นคือเวลาแจ้งเกิดของเขาเลย เพราะตั้งแต่ที่เขาได้ย้ายเขามาในสโมสร เขาสามารถพิสูจน์ตัวเองและยึดแบ็คขวาเบอร์ 1 ของทีมได้โดยใช้เวลาเพียงเล็กน้อย เพียงแค่ซีซั่น
แรกของเขากับ โมนาโก เขาก็มีส่วนร่วมกับโมนาโกจนทำให้ทีมนั้นอยู่บนลีกสูงสุดคว้าสิทธิ์ไปสู้ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้จนสำเร็จ และนอกจากนั้น ฟาบินโญ่ ก็สามารเป็นตัวหลักที่ทีมขาดไม่ได้เลยด้วยวัยเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น ฟาบินโญ่ โดยฟอร์มของเขา ณ เวลานั้น ยิ่งเล่นยิ่งผลงานดี โดยในซีซั่นที่ 2 ของเขากับ
ทางสโมสรในฤดูกาล 2014-2015 เขาทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง จากผลงานลงสนามที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก จึงทำให้ทางสโมสรมั่นใจและซื้อตัวเขาพร้อมมอบสัญญาเป็นเวลา 4 ปีให้กับเขา และในซีซั่น 2015-2016 เขาได้ถูกย้ายตำแหน่งไปเล่นในตำแหน่งกองกลาง และถูกยกเป็นเบอร์ 1 ในการยิ่งจุดโทษอีกด้วย
เพราะการสังหารจุดโทษนั้นถือเป็นจุดเด่นของเขาเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อไหร่ที่ โมนาโก เรียกจุดโทษได้นั้น เขาจะสามารถทำสกอร์ได้เลยทุกครั้ง ผลของการที่เขาถูกย้ายตำแหน่งเป็นตำแหน่งกองกลางนั้น ทำให้ ฟาบินโญ่ สามารถทำให้เขาเรียกสกอร์ให้กับทางสโมสรได้อย่างต่อเนื่อง จนสามารถช่วยทีมคว้าตั๋วไปลุย
ศึก ได้อีกครั้ง เมื่อเวลาดำเนินมาถึงปี 2016-2017 ถือเป็ฯปีของเขาเลยก็ว่าได้ ในซีซั่นดังกล่าว โมนาโก มีผลงานที่โดดเด่นมาก โดยเฉพาะเกมรุกที่สามารถทำสกอร์ได้อย่างถล่มทลาย ทำให้ในซีซั่นดังกล่าวนั้น สโมสร โมนาโก สร้างสกอร์ได้ถึง 100 ประตูเลยทีเดียว ถือเป็นทีมที่สร้างแนวรุกที่น่ากลัวที่สุดในยุโรปเลยก็
ว่าได้ โดยการสร้างจังหวะของเกมนั้นมาจาก ฟาบินโญ่ ทำให้เกมบุกของทีมดูคมและน่ากลัวทุกครั้งที่เติมเกมรุก และที่สำคัญคือ เขาพังทลายสถิติของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ด้วยการคว้าแชมป์ลีกเอิงได้สำเร็จ ซึ่งหลังจากจบซีซั่นดังกล่าว นักเตะของทีมจะถูกจับตามองจากทีมใหญ่ และหนึ่งในนั้นก็คือ ฟาบินโญ่ ที่ได้ตัดสินใจ เขาร่วมกับทางหงส์แดง
คลิกเลย >>> UFABETWINS
อ่านข่าวอื่นๆที่ >>> https://www.mangorent.com/